วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ล้างมืออย่างไร ให้สะอาด


การล้างมืออย่างถูกวิธี
การล้างมือ (Hand hygiene) 
หมายถึง การขัดถูให้ทั่วมือรวมทั้งช่องลายนิ้วมือ ด้วยสบู่หรือสารเคมีและน้้า แล้วล้างออกให้สะอาด แบ่งดังนี้

     1. Normal hand washing (การล้างมือทั่วไป) 
หมายถึง การล้างมือเพื่อขจัดสิ่งสกปรกต่าง ๆ เหงื่อ ไขมัน ที่ออกมาตามธรรมชาติ และลดจ้านวนเชื้อโรคที่อาศัยอยู่ชั่วคราวบนมือ การล้างมืออย่างถูกวิธีต้องล้างด้วยสบู่ก้อนหรือสบู่เหลว ใช้เวลาในการฟอกมือนานประมาณ 15 วินาที
     2. Hygienic hand washing (การล้างมือด้วยน้ายาฆ่าเชือ)
หมายถึง การล้างมือด้วยสบู่เหลวผสมน้้ายาฆ่าเชื้อ เช่น Chlorhexidine 4% ใช้เวลาในการฟอกมือนาน 20-30 วินาที
     3. Surgical hand washing (การล้างมือก่อนท้าหัตถการ) 
การล้างมือก่อนท้าหัตการในห้องผ่าตัดหรือห้องคลอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยการฟอกมือด้วยสบู่ผสมน้้ายาฆ่าเชื้อ เช่น Chlorhexidine 4% ตั้งแต่มือ แขน ถึงข้อศอกให้ทั่วเป็นเวลา 2-5 นาที
     4. การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล (Alcohol gel) 
หมายถึง การล้างมือในกรณีรีบด่วน ไม่สะดวกในการล้างมือด้วยน้้าและมือไม่ปนเปื้อนสิ่งสกปรก หรือสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ให้ท้าความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์เจล การล้างมือด้วยน้้ายาประมาณ 10 มิลลิลิตร ใช้เวลาประมาณ 15-25 วินาที

การล้างมืออย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยรักษาความสะอาดของร่างกายแล้ว ยังช่วยลดการแพร่กระจายของโรคได้ทั้งโรคติดต่อทางทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ และโรคติดต่อทางทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสียจากการติดเชิ้อแบคทีเรีย  ซึ่งการล้างมืออย่างถูกวิธีสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยมี 7 ขั้นตอนดังนี้ 

1.ฝ่ามือถูฝ่ามือ เริ่มต้นการล้างมือง่ายๆ ด้วยการถูสบู่ขึ้นมาเล็กน้อยพอขึ้นฟอง ก่อนนำฝ่ามือทั้งสองข้างประกบกันและถูให้ทั่ว จนรู้สึกสะอาด
2.ฝ่ามือถูหลังมือ ปาดฟองสบู่มาที่หลังมือ แล้วล้างมือต่อโดยการใช้ฝ่ามือถูหลังมือและซอกนิ้วให้สะอาด จากนั้นสลับข้าง วิธีนี้จะทำให้ฆ่าเชื้อโรคบริเวณหลังมือที่เรามักลืมกันไป
3.ประกบฝ่ามือถูซอกนิ้ว พลิกมือกลับมาประกบกัน ก่อนจะล้างมือให้สะอาดด้วยการถูซอกนิ้วด้วยสบู่ให้สะอาดหมดจด
4.ฝ่ามือขัดหลังนิ้ว กำกำปั้นข้างหนึ่งขึ้นล้างมือต่อ โดยใช้ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งขัดบริเวณหลังนิ้ว สลับข้างทำแบบเดียวกันจนรู้สึกว่ามือสะอาด
5.ถูนิ้วหัวแม่โป้ง กางนิ้วหัวแม่โป้งก่อนใช้ฝ่ามืออีกข้างกำรอบแล้วหมุนวนด้วยฟองสบู่เป็นวงกลม ทำให้สะอาดทั้งสองด้าน
6.ขัดฝ่ามือด้วยปลายนิ้ว แบมือข้างหนึ่ง แล้วใช้ปลายนิ้วมืออีกข้างขัดฟองสบู่ตามแนวขวางจนทั่ว แล้วสลับข้างทำวิธีเดียวกัน
7.ถูรอบข้อมือ กำมือรอบข้อมือข้างหนึ่ง แล้วถูวนไปรอบๆ จากนั้นเปลี่ยนข้าง ทำเช่นเดียวกัน วิธีนี้จะช่วยให้ข้อมือสะอาด


โรคลมแดด (Heat Stroke)


โรคลมแดด (Heat Stroke)




สาเหตุ
โรคลมแดด เกิดจากการที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวกับความร้อนที่เกิดขึ้น จนเกิดภาวะวิกฤต ในภาวะปกติร่างกายจะมีระบบการปรับสมดุลความร้อน เมื่อความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้น จะมีขบวนการกำจัดความร้อนออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยต่อมใต้สมองไฮโปทาลามัสส่วนหน้า หากสมดุลนี้เสีย จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้น
อาการของโรค
อาการสำคัญได้แก่ ตัวร้อน อุณหภูมิร่ายกาย 41 องศาเซลเซียส มีเหงื่อออกในกลุ่มที่เกิดจากการออกกำลังกาย และไม่มีเหงื่อออกในกลุ่มที่ไม่ได้เกิดจากการออกกำลังกาย ประวัติสัมพันธ์กับอากาศร้อนขณะทำกิจกรรมหรือออกกำลังกาย มีอาการเพ้อ ความดันเลือดลดลง การทำงานของอวัยวะต่างๆล้มเหลว กระสับกระส่าย มึนงง สับสน ชักเกร็ง หมดสติ
โดยกลไกการทำงานของร่างกายหลังจากได้รับความร้อน จะมีการปรับตัวโดยส่งน้ำ หรือเลือดไปเลี้ยงอวัยวะภายใน เช่น สมอง ตับ และกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวหนังขาดเลือดและน้ำไปเลี้ยง จึงไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้
การช่วยเหลือเบื้องต้น
นำผู้ที่มีอาการเข้าในร่ม นอนราบ ยกเท้าสูง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด ถอดเสื้อผ้า ใช้น้ำเย็นประคบบริเวณ ใบหน้า ข้อพับ ขาหนีบ และใช้พัดลมเป่าเพื่อระบายความร้อน ใช้น้ำเย็นราดลงบนตัว เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้เร็วที่สุด และรีบนำส่งโรงพยาบาล


การป้องกัน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้ได้ 2 ลิตร/วัน
  • หลีกเลี่ยงอากาศร้อน ถ่ายเท ไม่สะดวก หากร้อนมากควรพยายามลดความร้อน โดยอาบน้ำ เปิดแอร์ เปิดพัดลม
  • ไม่ควรออกกำลังกายหักโหม หากรู้สึกเหนื่อยมากควรรีบพัก ทันที ควรมีการอบอุ่นร่างกายก่อนและหลังออกกำลังกาย
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี
  • หากต้องทำงานกลางแจ้งควรสวมหมวกป้องกัน หรือเตรียมตัวออกกำลังกายกลางแจ้งล่วงหน้า เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาบางชนิดที่เพิ่มความร้อนให้ร่างกาย

ที่มา: https://www.bangkokhospital.com/index.php/th/diseases-treatment/heat-stroke